Now Foods, Neptune Krill Oil, 500 mg, 60 Softgels

แหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ของคริลล์ออย (Krill oil)

คริลล์ออย (Krill oil) เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากสัตว์ทะเลขนาดจิ๋วในกลุ่มเดียวกับพวกกุ้งขนาดเล็ก (Crustaceans)   ซึ่งมักจะอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกของมหาสมุทรแอนตาร์คติกที่มีระบบนิเวศน์ที่ดี เป็นแหล่งธรรมชาติที่มีความสะอาดและบริสุทธิ์ คริลล์ออยบริสุทธิ์จะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมัน EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid)  ที่อยู่ในรูปแบบจับกับสาร Phosphatidylcholine ธรรมชาติ ทำให้การย่อยและการดูดซึมกรดไขมันโอเมก้า-3 ในร่างกายดีขึ้น นอกจากนี้ คริลล์ออย ยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-6 กรดไขมันโอเมก้า-9 และสารต้านอนุมูลอิสระสีแดงที่ชื่อ Astaxanthin ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับไลโคปีน (Lycopene) และเบต้า-แคโรทีน ( Beta-carotene) จากสารสำคัญต่างๆเหล่านี้ จึงทำให้คริลล์ออยมีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ลดอาการข้อเสื่อม ข้ออักเสบ และบรรเทาอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือนได้ประโยชน์จากธรรมชาติที่สำคัญของคริลล์ออย (Krill oil) ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 โอเมก้า- 6และโอเมก้า-9

• กรดไขมันในกลุ่ม Omega-3 (Polyunsaturated Fatty Acid) ซึ่งมีกรดไขมันที่สำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ 

1. EPA (Eicosapentaenoic Acid) กรดไขมัน EPA มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันหลอดเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นดีขึ้น นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการข้อเสื่อม ข้อรูมาตอยด์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันในเลือดและบรรเทาอาการอักเสบของข้อ

2. DHA (Docosahexaenoic Acid) กรดไขมัน DHA มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและสายตา ช่วยเสริมสร้างและป้องกันความเสื่อมของเซลล์สมอง การเรียนรู้ และความจำ จึงช่วยชะลอความเสื่อมของระบบประสาทและสมองในผู้ใหญ่ รวมถึงระบบสายตา ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

• กรดไขมันในกลุ่ม Omega-6 (Unsaturated Fatty Acid) 

กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่เป็นกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า -6 ได้แก่ กรดลิโนเลอิก (Linoleic Acid) และกรดอะราคิโดนิก (Arachidonic Acid) กรดกลุ่มโอเมก้า-6 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น กรดไขมันชนิดดีชนิดนี้ จะช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆ ได้ เพราะเป็นสารตั้งต้นของการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน PGE1 ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพ คือ

1. ลดการทำงานของเกล็ดเลือด ทำให้การเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดลดน้อยลง ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และหัวใจทำงานน้อยลง

2. ช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลชนิดรวม (Total Cholesterol) และไขมันโคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-Cholesterol) รวมทั้งช่วยเพิ่มไขมันโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-Cholesterol) ซึ่งเป็นไขมันโคเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

3. ช่วยลดอาการปวดและอาการอักเสบต่างๆ เช่น อาการปวดก่อนมีรอบเดือน ปวดท้อง เจ็บคัดตึงหน้าอก และอาการไม่สบายต่างๆ

4. ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวหนัง ลดอาการแห้งกร้าน แตกขุย ริ้วรอยต่างๆ 

• กรดไขมันในกลุ่ม Omega-9 (Unsaturated Fatty Acid) 

กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่เป็นกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า -9 ได้แก่ กรดโอเลอิก (Oleic Acid) และกรดอิรูสิค (Erucic Acid) ประโยชน์ของกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-9 ที่ดีต่อร่างกาย คือ 

1. ช่วยลดไขมันโคเลสเตอรอลชนิดร้าน (LDL-Cholesterol) ช่วยเพิ่มระดับของไขมันชนิดดี (HDL-Cholesterol) รวมทั้งช่วยลดไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride) 

2. มีผลทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานปกติ หัวใจ สมอง ตับ ไต และอวัยวะอื่นๆ ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้สามารถป้องกันโรคหัวใจ และกลุ่มโรคหลอดเลือดตีบตัน

3. ช่วยป้องกันการเป็นโรคสมองเสื่อม บำรุงสมอง เสริมความจำ

Description

Suggested Use